นโยบายคุ้มครองส่วนบุคคล

บริษัท เอเชีย ทราโฟ จำกัด (“บริษัท”) ขอแนะนำให้ผู้ใช้งานทำความเข้าใจนโยบายส่วนบุคคล (privacy policy) นี้ เนื่องจากนโยบายนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของผู้ใช้งาน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบายส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

  1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

1.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม ในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเก็บรวบรวม และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือบริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอม ทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อความสั้น (Short Message Service) หรือตามแบบวิธีการของบริษัท

1.2 บริษัทจะขอความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่

  • เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
  • เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
  • เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของผู้ใช้งานและ/หรือผู้ใช้งานรายอื่น
  • เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  • เพื่อใช้ในการให้บริการ และปรับปรุงบริการของบริษัท
  • เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ

1.3 บริษัทจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานซึ่งเกี่ยวกับ Sensitivity data เช่น ลักษณะทางพันธุกรรม พฤติกรรมทางเพศ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลในลักษณะเดียวกัน รวมถึงข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทำให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด เว้นแต่

  • ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้งาน
  • เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
  • เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
  • เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และ/หรือผู้ใช้บริการ ผู้ใช้งานอื่น
  • เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  • เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ

1.4 คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่บริษัทได้รับมา ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของผู้ใช้งานได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ใช้งานก่อน

  1. วัตถุประสงค์ในการรวบรวม จัดเก็บ ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน เพื่อการดำเนินงานของบริษัทฯในการให้บริการด้าน….การคำนวณและเรียกเก็บค่าใช้บริการ การศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล….. ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

บริษัทฯจะใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากแอพพลิเคชั่นทั้งหมดของบริษัท เพื่อให้บริการ บำรุงรักษา ป้องกัน ปรับปรุง พัฒนาบริการใหม่ๆ และปกป้องบริษัทฯและผู้ใช้งาน ตลอดจนเพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ได้รับการปรับแต่ง (Customize) ให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้งานโดยเฉพาะ เช่น แสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งาน แสดงโฆษณาประชาสัมพันธ์บริการที่ผู้ใช้งานอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน

นอกจากนี้เมื่อผู้ใช้งานติดต่อมายังบริษัทฯ บริษัทฯอาจเก็บบันทึกข้อมูล ที่อยู่อีเมลล์ ปัญหา หรือข้อเสนอแนะของผู้ใช้งานผ่าน “ช่องทางการติดต่อ” เพื่อนำมาใช้ในการให้คำปรึกษา แนะนำวิธีการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานอุปกรณ์ และแอพพลิเคชั่น ในการนำมาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการของบริษัท บริษัทในเครือ และพันธมิตรทางธุรกิจ และแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบผ่านที่อยู่ที่ผู้ใช้งานแจ้งไว้

หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะประกาศให้ผู้ใช้งานทราบ การแจ้งล่วงหน้าให้ผู้ใช้งานทราบก่อน 15 วัน โดยการส่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือประกาศไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

2.1 ข้อมูลที่รวบรวมและเหตุผลที่รวบรวม

ให้ผู้ใช้งานแจ้งหรือกรอกข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น สำหรับแอพพลิเคชั่นที่ต้องให้มีการลงทะเบียนก่อนการใช้งาน เพื่อจัดเก็บและบันทึกไว้ในบัญชีผู้ใช้งาน ตลอดจนเพื่อใช้ในการจัดเก็บค่าใช้บริการต่างๆ ภายในแอพพลิเคชั่น

บริษัทรวบรวมข้อมูลจากการใช้งานแอพพลิเคชั่นของผู้ใช้งาน ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลอย่างน้อยดังนี้

  • ข้อมูลเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่/อุปกรณ์: บริษัทจะรวบรวมข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตลอดจนหมายเลขอุปกรณ์ ที่ทำให้บริษัททราบว่าผู้ใช้งานเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นจากอุปกรณ์ ใด เพื่อนำมาเก็บไว้ที่ server ของบริษัท และใช้ปรับแต่งการให้บริการและวิเคราะห์ปัญหาที่เหมาะสมกับอุปกรณ์นั้นๆ และใช้ SMS สำหรับส่งข้อมูล OTP สำหรับการลงทะเบียนใช้งาน
  • ข้อมูลกล้องถ่ายรูป (Camera) เมื่อผู้ใช้งานใช้งานแอพพลิเคชั่นนี้ บริษัทอาจเข้าถึงรวบรวม และประมวลผลข้อมูลรูปถ่าย วิดีโอ และสถานที่ของรูปถ่ายและ/หรือวิดีโอของผู้ใช้งาน เพื่อให้แอพพลิเคชั่นสามารถสแกน QR-Code อุปกรณ์ดิจิตอลที่ใช้งานได้ หรือ ใช้รูปภาพสำหรับแสดง profile ของผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น
  • ข้อมูลตำแหน่ง (Location) เมื่อผู้ใช้งานใช้งานแอพพลิเคชั่นของบริษัท บริษัทฯอาจเข้าถึง รวบรวมและประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่แท้จริงของผู้ใช้งานผ่านเทคโนโลยีที่หลากหลายในการระบุตำแหน่ง เช่น ที่อยู่ IP, GPS เซ็นเซอร์หรือเครื่องมืออื่นๆ ผ่านอุปกรณ์ ของบริษัทฯ เพื่อใช้ระบุตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้บนแผนที่ และเส้นทาง
  • ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น (Account) เมื่อผู้ใช้งานใช้งานแอพพลิเคชั่นของบริษัทฯ บริษัทฯอาจเข้าถึง รวบรวมและประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น (Account) ของผู้ใช้งาน สำหรับการตรวจสอบ Token และ/หรือ UDID ของเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่/อุปกรณ์ดิจิตอล เพื่อการ log-in และตรวจสอบ account ผู้ใช้งาน หรือการจัดทำข้อความแจ้งโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นไปยังผู้ใช้งาน
  • คุกกี้และเทคโนโลยีที่คล้ายกัน (Cookies and Similar Technologies) บริษัทฯกับบริษัทในเครือ และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ อาจใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลเมื่อผู้ใช้งานเยี่ยมชมเว็บไซต์และ/หรือบริการของบริษัท โดยการใช้คุกกี้และเทคโนโลยีที่คล้ายกัน เพื่อระบุบราวเซอร์หรืออุปกรณ์ และ/หรือเพื่อรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลเมื่อผู้ใช้งานมีการโต้ตอบกับบริการที่บริษัทฯให้กับบริษัทในเครือ และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ เช่น หัวข้อบริการที่สนใจ หรือ บริการโฆษณา เป็นต้น
  • ข้อมูลที่ถูกบันทึก : เมื่อผู้ใช้งานเรียกดูข้อมูลและ/หรือรายงานจากแอพพลิเคชั่น บริษัทจะบันทึกการเรียกดูข้อมูลและ/หรือเนื้อหาดังกล่าวไว้ในแหล่งรวบรวมดังต่อไปนี้ ในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเอง และ/หรือของบริษัทในเครือ และ/หรือของคู่สัญญาที่เชื่อถือได้ของบริษัทที่ทำหน้าที่บริหารจัดการข้อมูลในแอพพลิเคชั่นตามสัญญา

2.2 การเปิดเผยและใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานที่บริษัทได้รับ ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของผู้ใช้งานได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทฯเท่านั้น และบริษัทฯจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ใช้งานก่อน

บริษัทฯจะใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานได้ ตามความยินยอมของผู้ใช้งานโดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม จัดเก็บ ข้อมูลของบริษัทเท่านั้น

บริษัทฯจะดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้เปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์หรือต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่

  • เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
  • ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้งาน
  • เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของผู้ใช้งานและ/หรือผู้ใช้บริการอื่น
  • เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  • เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ

บริษัทฯอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานกับบริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม ตลอดจนคู่สัญญาที่มีหน้าที่บริหารจัดการแอพพลิเคชั่นตามสัญญากับบริษัทฯโดยตรง หรือบริษัทอื่นที่มีนโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้บริการ บำรุงรักษา ป้องกัน ปรับปรุง พัฒนาบริการใหม่ๆ และปกป้องบริษัทและผู้ใช้งาน ตลอดจนเพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ได้รับการปรับแต่ง (Customize) ให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้งานโดยเฉพาะ เช่น แสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งาน แสดงโฆษณาประชาสัมพันธ์บริการที่ผู้ใช้งานอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน โดยดำเนินการตามคำแนะนำและสอดคล้องตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ รวมถึงมาตรการการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับและการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

  1. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการจัดการละเมิด

บริษัทฯตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน บริษัทฯจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอด คล้อง กับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้เฉพาะกับพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท ที่มีความจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลนั้นๆ (Need to Know Basis) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูล โดยที่บุคคลดังกล่าวนั้น จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามสัญญาอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษขั้นรุนแรง และต้องมีการทบทวน ปรับปรุงมาตรการ เมื่อพบว่ามีความเสี่ยง หรือมีความไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย

บริษัทฯได้กำหนดมาตรการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการละเมิด มีการตรวจสอบ และรายงานผลการละเมิด และถ้ามีการละเมิดต้องแจ้งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 ชั่วโมง

  1. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล

ในกรณีที่ผู้ใช้งานประสงค์จะทราบข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนเอง ผู้ใช้งานกรอกแบบฟอร์ม และยื่นคำร้องขอได้ที่ “ช่องทางการติดต่อ” ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทฯกำหนด เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว บริษัทฯจะดำเนินการแจ้งตอบกลับ หรือชี้แจงรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ผู้ใช้งานภายในระยะเวลา 30 วันทำการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับกรณีที่แจ้งขอเป็นครั้งเดียว แต่หากผู้ใช้งานร้องขอข้อมูลในลักษณะฟุ่มเฟือย บริษัทจะคิดค่าบริการตามความเป็นจริง

ผู้ใช้งานมีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามบริษัทฯอาจปฏิเสธสิทธิของผู้ใช้งานได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวผู้ใช้งานได้อีก

หากผู้ใช้งานเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง ผู้ใช้งานสามารถแจ้งให้บริษัทฯแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนนั้นได้ ในการนี้ บริษัทจะจัดทำบันทึกคำคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไว้เป็นหลักฐานด้วย ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเสียชีวิต เมื่อมีคำสั่งจากศาลบริษัทจะอนุญาตให้ผู้สืบสิทธิ์ และ/หรือทายาทโดยชอบธรรม มาแจ้งความประสงค์ขอข้อมูลส่วนบุคคลได้

  1. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งทำหน้าที่ควบคุมข้อมูล

บริษัทฯมีระเบียบ คำสั่ง ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติหน้าที่ตาม ระเบียบ คำสั่ง ที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามมาตรฐานของประกาศฉบับนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯด้วย

  1. ช่องทางการติดต่อ และการเปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินการ แนวปฏิบัติ และนโยบายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีนโยบายปฏิบัติตามกฎหมายรวมถึงประกาศ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงออกมาตรการคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้บริการ

บริษัท จะเปิดเผยนโยบาย และแนวทางปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางสื่อสาร ดังนี้

  1. Web site : www.asiatrafo.co.th
  2. Email : info@asiatrafo.co.th
    pur.asia@asiatrafo.co.th
    sales.asia@asiatrafo.co.th
    it.asia@asiatrafo.co.th
    asia_trafo-acc@hotmail.com
    asia_trafo@hotmail.com

ช่องทางสื่อสาร และติดต่อในการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล และการร้องเรียน

บริษัท เอเชีย ทราโฟ จำกัด
ที่อยู่ : 88/99 หมู่ที่ 12 ถนนบางพลี-ตำหรุ ซอยสุนทรวิภาค ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ รหัสไปรษณีย์ 10540
โทรศัพท์ : 02-3460980-5
Email : dpo.asia@asiatrafo.co.th (เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)

ประกาศนโยบายฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป